ไข่มุก ชนิดต่างๆ
มุกแท้มีอยู่ สองชนิดค่ะ คือ มุกธรรมชาติ เเละมุกเลี้ยง
มุกธรรมชาติ คือมุกที่เกิดจาก ธรรมชาติล้วนๆ
มุกธรรมชาติเกิดจากวัตถุภายนอกพลัดตกลงไปในตัวหอย เกิดการหลั่งสารมุกโดยเซลล์บุผิวของเนื้อแมนเทิล ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ในการสร้างเปลือกหอย ดึงสารประกอบแคลเซียมจากน้ำมาสร้างเป็นชั้นเปลือกขึ้น ชั้นมุกประกอบด้วยผลึกของแคลเซียมคาร์บอเนตที่เรียกว่า อะราโกไนท์ รวมกับเมือกและสารจำพวกคอนชิโอลิน แทรกอยู่ทำให้ดูมีประกายรุ้งแวววาว มุกชนิดนี้หายากมารในธรรมชาติและมีรูปร่างแตกต่างกัน ที่ออสเตรเลียที่เเม่มดไอรีนนอยู่ มีรายงานว่า ปีที่แล้วหอยมุก 400,000 ตัว พบมุกธรรมชาติเพียง 3 ตัวเท่านั้น !!!
เเละเพราะไม่สามารถควบคุมรูปทรงได้ ราคาแพง ทำให้มีมนุษย์คิดค้นกระบวนการเกิดมุกในตัวหอยขึ้น จึงเกิดเป็นมุกเลี้ยงในเวลาต่อมา
ไข่มุกเลี้ยง(Cultured Pearls) เเบ่ง เป็น มุกน้ำเค็ม เเละมุกน้ำจืด
ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด มีกรรมวิธีการเลี้ยงคล้ายคลึงกันโดยใช้วัตถุก้อนกลมเล็กๆ เช่น เม็ดเปลือกหอยหรือเม็ดพลาสติกเรียก นิวเคลียส์(Nucleus) ใส่เข้าไปในกลีบกล้ามเนื้อของหอยมุก ทิ้งไว้ระยะหนึ่งในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด และไม่มีมลภาวะเป็นพิษ หอยมุกจะเกิดความระคายเคือง สร้างสารที่เป็นเมือกซึ่งเป็นพวกแคลเซียมคาร์บอเนตขึ้นมาเคลือบวัตถุที่ใส่ลงไปเป็นชั้นๆ จนได้ไข่มุกเลี้ยง ใช้เวลาประมาณ 6เดือน – 3 ปี อยู่ในน้ำลึก และอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของน้ำทะเลประมาณ 18 – 23 องศาเซลเซียส ราคานั้นไม่ถูกเลยละค่ะ เพราะกว่าจะได้มาแต่ละเม็ดนั้นต้องผ่าน “กระบวนการเพาะเลี้ยงหอยมุก” มากมายถึง 323 ขั้นตอนเลยทีเดียวละค่ะ …เเม้จะกำหนดปริมาณผลผลิตจากปริฒารการเลี้ยงหอยมุกได้ เเต่สีเเละคุณภาพ ความวาว รวมถึงขนาดมุก ก็ต้องเเล้วเเต่ธรรมชาติจัดสรรค์อีกเหมือนกันค่ะ
การเกิดมุกเลี้ยงและมุกธรรมชาติจึงไม่แตกต่างกัน เพียงแต่กระบวนการนำพามุกธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นผู้นำพา ส่วนมุกเลี้ยงมนุษย์เป็นผู้นำพาเท่านั้น
ไข่มุกยังเเบ่งออก ตามเเต่เเหล่งกำเนิด ได้อีกนะค่ะ เอกลักษณ์, คุณค่า เเละราคา ก็เเตกต่างกันด้วยค่ะ
มุกอโกยา จาก ญี่ปุ่น เเละจีน
มุกกลมขนาดตั้งแต่ 2 – 10 mm. หอยมุกชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinctada fucata มีชื่อสมามัญว่า Vulgaris คนไทยเรียกหอยมุกแกลบ, หอยมุกระจิ, หอยมุกกระแจะ โดยรวบรวมพันธุ์หอยจากธรรมชาติมีขนาดตั้งแต่ 5 – 10 ซม. ทำการผ่าตัดฝังแกนมุกบริเวณติ่งเพศของหอย ( Gonad หรือ Pearl sac ) โดยต้องอาศัยผู้ชำนาญพิเศษ มิฉะนั้นอาจทำให้หอยตายได้ จากน้ำจะทำการตรวจเช็คอัตราการตาย การคายแกนมุก เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์จึงจะนำไปเลี้ยงในทะเล ระยะเวลา 6 – 19 เดือน
มุกอโกยามีขาดเล็กกลมสวย โดยเฉลี่ย อยู่ที่ 5- 10มม. ความโดดเด่นคือความวาวที่สะดุดตาค่ะ
มุกเซาท์ซี South Sea หรือไข่มุกทะเลใต้
เเหล่งผลิตอยู่เเถมทะเลใต้ ตามชื่อมุกค่ะ ออสเตรเลียเป็นเเดนที่ได้ชื่อว่า มุกเซาท์ซีสีทอง สีขาว เเละสีเงินมีคุณภาพเเละมีราคาสูงที่สุดค่ะ
ส่วนไข่มุกตาฮิติ มักจะผลิดได้มุกสีดำ เทา สีขนนกยูง ส่วนมากจะมาจากเกาะตาฮิติ เขตฝรั่งเศษ
ขนาดตั้งแต่ 8 -22 มม. ขึ้นไปมีทั้งสีขาว สีครีม สีทอง และสีดำ ราคาสูง ปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมาก มุกเซาท์ซีเป็นมุกที่เกิดจากหอยขนาดใหญ่ชื่อ Pinctade maxima มีชื่อสามัญว่า Silver lipped, Gold lipped คนไทยเรียกหอยมุกจาน หอยมุกชนิดนี้หายากมากในธรรมชาติ เพื่อเป็นการทดแทนธรรมชาติที่ขาดแคลน นักวิชาการของฟาร์มจึงคิดค้นการเพาะและขยายพันธุ์หอยมุกจานขึ้นและประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เมื่อเลี้ยงหอยอายุประมาณ 2 ปี ก็ทำการผ่าตัดใส่สิ่งเเปลกปลอมโดยผู้ชำนาญ จากนั้นนำไปอนุบาลและเลี้ยงลงทะเลเป็นเวลา 1.5 – 3 ปี ก็จะได้ผลผลิตเป็นไช่มุกเซาท์ซีเม็ดงามโดดเด่นกว่ามุกชนิดอื่นๆ โดยสิ้นเชิงค่ะ มุกทะเลใต้สีทองทุกเฉด เฉลี่ยมีราคาสูงกว่ามุกสีขาวประมาณ 32-40% เพราะสีทองนั้นหายากและทำยากกว่า โดยเรียงลำดับราคาจาก สีทองสว่างไปจนถึงทองเข้ม ซึ่งสีที่หายากที่สุดคือ สีทองเข้ม (Dark Champagn) แต่จะได้มุกสีอะไรนั้นธรรมชาติเป็นผู้กำหนดค่ะ นี่ละคะ มุกเเต่ละเเหล่งเเต่ละสี จึงมีคุณค่าที่เเตกต่างกัน
คลิ๊ก ไข่มุกเซาท์ซี จาก ออสเตรเลีย
ไข่มุกซึก (Mabe)
มุกมาบิ คือไข่มุกครึ่งซีกที่เติบโตอยู่กับเปลือกหอยมุก มันจะไม่เติบโตอยู่ในตัวหอยมุก จึงทำให้มีลักษณะเป็นเพียงครึ่งซีก เหมาะที่จะนำมาทำต่างหูและแหวนที่ด้านหลังแบนและเรียบ
มุกน้ำจืด พบได้ในบริเวณชายหาดและแม่น้ำทั่ว ๆ ไปทุกแห่งในโลก สามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ายในประเทศจีน, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทย ด้วยความแวววาวที่ด้อยกว่ามุกน้ำเค็ม มุกน้ำจืดจึงมีราคาที่ถูกกว่า ประกอบด้วยรูปร่างลักษณะที่หลากหลายและสีสัน
คลิ๊ก วิธีดูว่า ไข่มุกนั้น จริงหรือปลอม…
คลิ๊ก ประสบการณ์ด้านอัญมณี
คลิ๊ก ประสบการณ์ด้านการพยากรณ์
คลิ๊ก ผลการตอบรับจากผู้ครอบครองเครื่องประดับเสริมดวง
No comments yet.