มุกเเท้ หรือมุกปลอม ดูยังไง
เคล็ดลับดู”มุกแท้” หรือ “มุกเทียม”
1 การรนด้วยไฟ
ไข่มุกแท้จะมีความแข็งและความแวววาวที่เเตกต่างจากไข่มุกเทียม
ซึ่งทำมาจากวัสดุที่ไม่มีค่า เช่น เม็ดพลาสติกหุ้มสีวาวๆหรือพวกสารที่ทำให้มันวาวเท่านั้น การใช้ความร้อนจากไฟเเชค รนผ่านไวๆ จึงพอจะตรวจสอบได้ว่าเเท้หรือเทียม
เพราะถ้าเป็นมุกเทียมมันก็จะไหม้หลอม หลุดลอก เเต่ถ้าเป็นมุกเเท้ คราบเขม่าดำที่เกิดจากความร้อนจะเช็ดออกได้ค่ะ ต้องลองๆ
2 ส่องด้วยกล้องขยาย 10เท่า 10x Loupe
การส่องด้วยกล้องส่องเพชรหรือ กล้องส่งอพระ ขยายให้เห็นผิวของมุกเป็นชั้นหนา ไม่เรียบ ลักษณะสีไม่สม่ำเสมอ จะมีสีและสีเหลือบ ไม่เสมอกัน เข้มและอ่อนต่างกันในแต่ละเม็ด
3 การถูด้วยฟัน
วิธีนี้ง่ายมาก อุปกรณ์ระดับโปรเฟชชาเนล ก็คือ ฟันของเราเองนี่ละค่
นำเอาเม็ดมุกถูกที่ฟันหน้า (บริเวณหน้าฟัน หรือปลายฟันเหมือนในภาพก็ได้ค่ะ) ถ้าเป็นมุกเลี้ยงหรือมุกธรรมชาติจะมีลักษณะฝืด แต่ถ้าเป็นมุกเทียมจะลื่นๆค่ะ ยิ่งถ้าใส่ไปไม่นานมันก็จะลอกเป็นคลาบๆเหมือนสีเเล๊คเกอร์ที่เคลือบหลุดค่ะ
จริงๆใช้เม็ดมุก ขัดถูกกับมุกอีกเม็ดก็ได้ค่ะ (เง็ง..) ความรู้สึกก็เหมือนกันคือมุกเเท้มันจะฝืดๆค่ะ ความรู้สึกคล้ายๆกับ เปลือกหอยเสียดสีกันตอนเราล้างหอยเเมลภู่หรือหอยเเครงอะค่ะ ^ ^
ห้าม อมนะค่ะ รสชาติไม่ได้เเยกว่า เป็นมุกน้ำเค็มหรือน้ำจืด เเม้ว่ามันอาจจะเค็มๆนิดนึง 55 54 อุณหภูมิของไข่มุก
4 ตรวจสอบอุณหถูมิของไข่มุก
มุกเเท้จะให้ความรู้สึกเย็นๆเมื่อสัมผัส ส่วนมุกเทียมส่วนมากเเล้วจะเป็นอุณหภูมิห้อง ค่ะ (….อะหนะ…..ห้องไหนละค่ะ )
อุณหภูมิห้อง คือ อุณหภูมิที่เราจะทำการทดลองอะไรก็ตามส่วนมากเฉลี่ยอยุ่ที่ 20 – 25 องศาเซลเซียส
อย่างเรากำลังจะทดลอง เรื่องอุณหภูมิของไข่มุก ไข่มุกเเท้ก็ต้องมีความเย็น กว่าอุณภูมิห้องนั้นๆค่ะ
ถ้าอยู่ในรถยนต์เปิดเเอร์เย็นๆ ไข่มุกเเท้ก็จะยิ่งเย็นกว่า เมื่อสัมผัสค่ะ
คล้ายๆกับ การถือไม้บรรทัดเหล็ก กับไม้บรรทัดไม้ในห้องเเอร์เย็นๆอะค่ะ มุกจะเย็นคล้ายๆไม้บรรทัดเหล็กเลยค่ะ ต้องลองๆ
5. การเจาะรูด้วยสว่าน
เวลาเจาะจะลื่นนุ่มมือ เนื้อมุกเป็นผง ไม่เเตก ไม่กรอบ ไม่หลุดร่อน เเต่เมื่อเจาะสักระยะจะสะดุดกัง กึ๊ก! เพราะเจาะไปเจออินทรีย์วัตถุที่ใช้เลี้ยงไข่มุกไงค่ะ เเหะๆ ไม่ต้องตกใจ ยังไงก็เป็นมุกเเท้ค่ะ (ร้านเเม่มดไอรีนนส่วนมากจะมีไข่มุกออสเตรเลีย เนื่องจากอยู่ที่นี่อะนะค่ะ่ ใกล้วัตถุดิบ ตัดตอนพ่อค้าคนกลาง ได้หลายกลางเลยละค่ะ )นอกจากจะดูว่าเเท้หรือปลอม ยังดูความหนาของชึ้นเนื้อมุก (เนเคอร์) ได้ด้วยค่ะ โดยใช้แว่นขยายดูบริเวณรูที่เจาะ ถ้าไข่มุกมีชั้นมุกไม่หนา จะเห็นรอยต่อระหว่างส่วนที่เป็น ชั้นมุกกับส่วนของอินทรีย์วัตถุ มุกจากออสเตรเลียมีความวาวมากเพราะชั้นไข่มุกหนากว่ามุกเเหล่งอื่นๆค่ะ
มุกชั้นนอกสุด ถ้ามุกมีความมันวาวมาก แสดงว่าเป็นมุกเนื้อหนา (Nacre) และมาจากหอยมุกที่แข็งแรง ความเรียบเนียนของผิวชั้นนอกสุด
ความจริงแล้วไม่ค่อยจะมีมุกที่เรียบเนียนเกลี้ยงเกลาไปทั้งเม็ดหรอกค่ะ
ให้เลือกที่ดูแล้วเกลี้ยงเกลาที่สุด มีตำหนิน้อยที่สุด มีเคล็ดลับในการเลือกไข่มุกมาเสริมดวง คือ
ให้เลือกมุกที่ผิวมีตำหนิเล็กน้อย เช่น
มีรอยบุ๋มเล็กๆ รอยฟองอากาศ ตำหนิธรรมชาติที่พอจะหลบมุมได้ แต่เน้นๆ ให้มีความมันวาวสูง เหลือบๆ รุ้งๆ เเล้วเเต่จะเน้นเสริมดวงด้านไหนอ่ะค่ะ แค่นี้ก็จะได้มุกสวยๆ รับพลังโชคมาครอบครองเเล้วละค่ะ
เพราะความมันวาวที่มีอยู่มากจะเปล่งประกายโดดเด่นจนกลบเกลื่อนรอย
ตำหนินิดๆ หน่อยๆ บนเนื้อมุกได้ แต่มุกที่ไม่ควรแตะเลยก็คือมุกที่มี
ตำหนิชัดเจน มีรอยแตกร้าว
เอาเป็นว่า อัญมณีเเท้ ทั้งพลอย เพชรเเละไข่มุก หากเลือกให้เหมาะสมกับดวงของเรา ยังไงก็ต้องนำมาเเต่ความสุข เเละความโชคดีค่ะ ฟันธง!
คลิ๊ก ประสบการณ์ด้านอัญมณี
คลิ๊ก ประสบการณ์ด้านการพยากรณ์
คลิ๊ก ผลการตอบรับจากผู้ครอบครองเครื่องประดับเสริมดวง
No comments yet.